นักการศึกษาได้ให้นิยามของหลักสูตรแตกต่างกันออกไป
เช่น
วิชัย วงศ์ใหญ่ (2554: 95) กล่าวว่า
หลักสูตร (curriculum) มีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินว่า “race – course” หมายถึงเส้นทางที่ใช้วิ่งแข่งขัน
เนื่องจากเป้าหมายของหลักสูตรที่มุ่งหวังให้ผู้เรียนสามารถเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและประสบความสำวเร็จในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมแห่งอนาคต
และในปัจจุลันความหมายของหลักสูตร หมายถึง มวลปนะสบการณ์ทางการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในรายวิชา
กลุ่มวิชา เนื้อหาสาระ
รวมทั้งกิจกรรมต่างๆที่ได้ดำเนินการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
ทาบา (Taba, 1962 : 10) กล่าวว่า
หลักสูตร หมายถึง เอกสารที่จัดทำขึ้น เพื่อระบุ
เป้าหมายและวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหาสาระ กิจกรรมหรือประสบการณ์การเรียนรู้
และการประเมินผลการเรียนรู้
การพัฒนาหลักสูตรเป็นการเปลี่ยนและปรับปรุงหลักสูตรอัเดิมให้ได้ผลดียิ่งขึ้นในด้านการวางจุดมุ่งหมายการจัดเนื้อหาการเรียนการสอน
การวัดและกระเมินผล เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายใหม่ที่วางไว้
กล่าวโดยสรุป หลักสูตร (Curriculum) หมายถึง
ศาสตร์ที่เรียนรู้เพื่อนำไปกำหนดวิถีทางที่นำไปสู่การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนเพื่อการเรียนรู้
โดยจัดกลุ่มได้เป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
1) หลักสูตรเป็นผลผลิตในรูปแบบเอกสาร
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือมัลติมีเดีย เป็นต้น
2)
หลักสูตรเป็นโปรแรกมการศึกษา โดยปกติเขียนในรูปแบบหลักสูตรรายวิชา
การจัดลำดับของมาตรฐานในการเรียนรู้ตามหลักสูตร
3)
หลักสูตรเป็นความตั้งใจเพื่อการเรียนรู้ จะบอกจุดหมาย เนื้อหาสาระ มโนทัศน์
หลักการทั่วไป และผลการเรียนรู้
4)หลักสูตรเป็นประสบการณ์ของผู้เรียน
มีกิจกรรม ทั้งที่มีการวางแผนและไม่ได้วางแผน
5)หลักสูตรแฝง
ไม่ได้เป็นรูปแบบหลักสูตรโดยตรง แต่จะเป็นสิ่งใดหรืออะไรก็ตาม
ที่ผู้เรียนเรียนรู้ที่ไม่ได้วางแผนไว้
หรือถึงแม้จะไม่ได้เป็นความคาดหวังไว้แต่เป็นไปได้
ปริ้น (Print, 1993: 110) ได้แสดงความเห็นว่าหลักสูตรมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับวิชาชีพครู
การศึกษาทางด้านหลักสูตรเป็นส่วนหนึ่งของโปรแรกมการศึกษาวิชาชีพครู ดังนั้น
ครูจึงมีความจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรและมีความเข้าใจในกระบวนการในการพัฒนาหลักสูตร
เมื่อิจารณาประเด็นที่เกี่ยวกับหลักสูตร มีคำถามพื้นฐานที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1)
สอนอะไร 2) สอนอย่างไร 3) สอนเมื่อไหร่ 4)
อะที่เป็นผลที่เกิดขึ้นตามมาอันเป็นผลจากการสอน
สันต์ ธรรมบำรุง (2527 : 9 - 10)
ได้กล่าวถึงความสำคัญของหลักสูตรไว้ว่า
1)
หลักสูตรเป็นแผนปฏิบัติงานของครู
เพราะหลักสูตรจะกำหนดจุดมุ่งหมายเนื้อหาสาระการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน
และการประเมินผลไว้เป็นแนวทาง
2) หลักสูตรเป็นข้อกำหนดแผนการเรียนการสอน
อันเป็นส่วนรวมของประเทศเพื่อนำไปสู่ความมุ่งหมายตาม แผนการศึกษาแห่งชาติ
3) หลักสูตรเป็นเอกสารของทางราชการเป็นบัญญัติของทางรัฐบาล
เพื่อให้บุคคลที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการศึกษา ปฏิบัติตาม
4) หลักสูตรเป็นเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา เพื่อควบคุมการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาระดับต่างๆ
และยัง เป็นเกณฑ์มาตรฐานอย่างหนึ่งในการจัดสรรงบประมาณ บุคลากร อาคารสถานที่
วัสดุอุปกรณ์ฯลฯ ของการ ศึกษาของรัฐให้แก่สถานศึกษาของรัฐบาลด้วย
5) หลักสูตรเป็นแผนดำเนินงานของผู้บริหารการศึกษาที่จะอำนวยความสะดวกและควบคุมดูแลติดตามผลให้เป็น ไปตามนโยบายการจัดการศึกษาของรัฐบาลด้วย
6) หลักสูตรจะกำหนดแนวทางในการส่งเสริมความเจริญงอกงาม
และพัฒนาการของเด็กตามจุดหมายของการ ศึกษา
7) หลักสูตรจะกำหนดลักษณะและรูปร่างของสังคมในอนาคตได้ว่าจะเป็นไปในรูปใด
8) หลักสูตรจะกำหนดแนวทางให้ความรู้
ทักษะและความสามารถความประพฤติที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมอัน เป็นการพัฒนากำลังคน
ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติที่ได้ผล
9) หลักสูตรจะเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงความเจริญของประเทศ
เพราะการศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคน
ประเทศใด จัดการศึกษาโดยมีหลักสูตรที่เหมาะสม ทันสมัย มีประสิทธิภาพ
ทันต่อเหตุการณ์ และการเปลี่ยนแปลงย่อมได้ กำลังคนที่มีประสิทธิภาพสูง
ประเภทของหลักสูตร มีดังนี้
1)
หลักสูตรแบบเน้นเนื้อหา (The
Subject Matter Curriculum)
อาจเรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า เป็นหลักสูตรที่เน้นเนื้อหาเป็นศูนย์กลาง (Subject-Centered-Curriculum) ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการสอนของครูที่ใช้วิธีการ บรรยาย ปรัชญาการจัดการศึกษาแนวนี้จะยึดปรัชญาสารัตถนิยม(Essentialism) และสัจวิทยา(Perennialism)
อาจเรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า เป็นหลักสูตรที่เน้นเนื้อหาเป็นศูนย์กลาง (Subject-Centered-Curriculum) ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการสอนของครูที่ใช้วิธีการ บรรยาย ปรัชญาการจัดการศึกษาแนวนี้จะยึดปรัชญาสารัตถนิยม(Essentialism) และสัจวิทยา(Perennialism)
2)
หลักสูตรสหสัมพันธ์ (Correlated
Curriculum)
เป็นหลักสูตรเนื้อหาวิชาอีกรูปแบบหนึ่ง แต่จะนำเอาเนื้อหาวิชาต่าง ๆ ที่สอดคล้องหรือส่งเสริมกันและกันมาเชื่อมโยง แล้วจัดสอนเป็นเนื้อหาเดียวกัน โดยอาศัยหลักความคิดของนักการศึกษาที่ว่า การที่จะเรียนรู้สิ่งใดให้ได้ดีผู้เรียนต้องมีความสนใจเข้าใจความหมายของสิ่งที่เรียนและมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เรียนกับสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นหลักสูตรสหสัมพันธ์จะกำหนดเนื้อวิชาใดวิชาหนึ่งหรือหมวดใดหมวดหนึ่ง แล้วนำเนื้อหาสาระวิชาที่สัมพันธ์กันมารวมไว้ด้วยกัน
เป็นหลักสูตรเนื้อหาวิชาอีกรูปแบบหนึ่ง แต่จะนำเอาเนื้อหาวิชาต่าง ๆ ที่สอดคล้องหรือส่งเสริมกันและกันมาเชื่อมโยง แล้วจัดสอนเป็นเนื้อหาเดียวกัน โดยอาศัยหลักความคิดของนักการศึกษาที่ว่า การที่จะเรียนรู้สิ่งใดให้ได้ดีผู้เรียนต้องมีความสนใจเข้าใจความหมายของสิ่งที่เรียนและมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เรียนกับสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นหลักสูตรสหสัมพันธ์จะกำหนดเนื้อวิชาใดวิชาหนึ่งหรือหมวดใดหมวดหนึ่ง แล้วนำเนื้อหาสาระวิชาที่สัมพันธ์กันมารวมไว้ด้วยกัน
3)
หลักสูตรแบบผสมผสาน (Fused
Curriculum or Fusion Curriculum)
หลักสูตรแบบผสมผสานเป็นหลักสูตรที่พยายามปรับปรุงข้อบกพร่องของหลักสูตรเนื้อหาวิชา ดังนั้น หลักสูตรแบบผสมผสานคือหลักสูตรเนื้อหาวิชาอีกรูปแบบหนึ่ง โดยการรวมเอาวิชาย่อย ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาผสมผสานกันในด้านเนื้อหาเข้าเป็นหมวดหมู่
หลักสูตรแบบผสมผสานเป็นหลักสูตรที่พยายามปรับปรุงข้อบกพร่องของหลักสูตรเนื้อหาวิชา ดังนั้น หลักสูตรแบบผสมผสานคือหลักสูตรเนื้อหาวิชาอีกรูปแบบหนึ่ง โดยการรวมเอาวิชาย่อย ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาผสมผสานกันในด้านเนื้อหาเข้าเป็นหมวดหมู่
4)
หลักสูตรแบบหมวดวิชาแบบกว้าง (Broad
Fields Curriculum)
หลักสูตรหมวดวิชาแบบกว้างหรือหลักสูตรรวมวิชา เป็นหลักสูตรที่พยายามจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากหลักสูตรเนื้อหาวิชา ซึ่งขาดการผสมผสานของความรู้ให้เป็นหลักสูตรที่มีการประสานสัมพันธ์ของเนื้อหาความรู้ที่กว้างยิ่งขึ้น
หลักสูตรหมวดวิชาแบบกว้างหรือหลักสูตรรวมวิชา เป็นหลักสูตรที่พยายามจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากหลักสูตรเนื้อหาวิชา ซึ่งขาดการผสมผสานของความรู้ให้เป็นหลักสูตรที่มีการประสานสัมพันธ์ของเนื้อหาความรู้ที่กว้างยิ่งขึ้น
5)
หลักสูตรเพื่อชีวิตและสังคม (Social
Process and Life Function Curriculum)
หลักสูตรเพื่อชีวิตและสังคม เป็นหลักสูตรที่มุ่งแก้ไขข้อบกพร่องของหลักสูตรที่ผ่านมาด้วยการรวบรวมความรู้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยยึดกิจกรรมต่าง ๆ การจัดหลักสูตรแบบนี้ได้ยึดเอาสังคมและชีวิตจริงของเด็กเป็นหลัก เพื่อผู้เรียนจะได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะมีการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาวิชาในหลักสูตรกับชีวิตจริงของผู้เรียนหรือภาวะทางสังคมที่ผู้เรียนกำลังประสบอยู่ หลักการจัดหลักสูตรประเภทนี้ ได้รับอิทธิพลมาจากความคิดของจอห์น ดิวอี้ กับปรัชญาการศึกษาสาขาพิพัฒนาการนิยม และปรัชญาการศึกษาสาขาปฏิรูปนิยม
หลักสูตรเพื่อชีวิตและสังคม เป็นหลักสูตรที่มุ่งแก้ไขข้อบกพร่องของหลักสูตรที่ผ่านมาด้วยการรวบรวมความรู้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยยึดกิจกรรมต่าง ๆ การจัดหลักสูตรแบบนี้ได้ยึดเอาสังคมและชีวิตจริงของเด็กเป็นหลัก เพื่อผู้เรียนจะได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะมีการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาวิชาในหลักสูตรกับชีวิตจริงของผู้เรียนหรือภาวะทางสังคมที่ผู้เรียนกำลังประสบอยู่ หลักการจัดหลักสูตรประเภทนี้ ได้รับอิทธิพลมาจากความคิดของจอห์น ดิวอี้ กับปรัชญาการศึกษาสาขาพิพัฒนาการนิยม และปรัชญาการศึกษาสาขาปฏิรูปนิยม
6)
หลักสูตรกิจกรรมหรือประสบการณ์ (Activity
or Experience Curriculum)
หลักสูตรกิจกรรมหรือประสบการณ์เป็นหลักสูตรที่เกิดขึ้นจากความพยายามที่จะแก้ไขการเรียนรู้แบบครูเป็นผู้สอนเพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงความต้องการและความสนใจของผู้เรียน ซึ่งเป็นข้อบกพร่องของหลักสูตรแบบเนื้อหาวิชา หลักสูตรนี้ยึดประสบการณ์ และกิจกรรมเป็นหลักมุ่งส่งเสริมการเรียนการสอนโดยวิธีการแก้ปัญหา ผู้เรียนได้แสดงออกด้วยการลงมือกระทำ ลงมือวางแผน เพื่อหาประสบการณ์อันเกิดจากการแก้ปัญหานั้น ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการเรียนแบบการเรียนรู้ด้วยการกระทำ ( Learning by Doing)
หลักสูตรกิจกรรมหรือประสบการณ์เป็นหลักสูตรที่เกิดขึ้นจากความพยายามที่จะแก้ไขการเรียนรู้แบบครูเป็นผู้สอนเพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงความต้องการและความสนใจของผู้เรียน ซึ่งเป็นข้อบกพร่องของหลักสูตรแบบเนื้อหาวิชา หลักสูตรนี้ยึดประสบการณ์ และกิจกรรมเป็นหลักมุ่งส่งเสริมการเรียนการสอนโดยวิธีการแก้ปัญหา ผู้เรียนได้แสดงออกด้วยการลงมือกระทำ ลงมือวางแผน เพื่อหาประสบการณ์อันเกิดจากการแก้ปัญหานั้น ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการเรียนแบบการเรียนรู้ด้วยการกระทำ ( Learning by Doing)
7)
หลักสูตรแบบแกน (Core Curriculum)
หลักสูตรแบบแกนเป็นหลักสูตรที่ประสานสัมพันธ์เนื้อหาวิชาต่าง ๆ เข้าด้วยกันมุ่งที่จะสนองความต้องการและความสนใจของผู้เรียนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Active Learning สิ่งที่เรียนจะมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์และชีวิตของผู้เรียน เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงชีวิตความเป็นอยู่มาสัมพันธ์กับการเรียนรู้ได้ เป็นหลักสูตรที่ยึดปรัชญาปฏิรูปนิยม
หลักสูตรแบบแกนเป็นหลักสูตรที่ประสานสัมพันธ์เนื้อหาวิชาต่าง ๆ เข้าด้วยกันมุ่งที่จะสนองความต้องการและความสนใจของผู้เรียนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Active Learning สิ่งที่เรียนจะมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์และชีวิตของผู้เรียน เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงชีวิตความเป็นอยู่มาสัมพันธ์กับการเรียนรู้ได้ เป็นหลักสูตรที่ยึดปรัชญาปฏิรูปนิยม
8)
หลักสูตรบูรณาการ (Integrated
Curriculum)
หลักสูตรบูรณาการเป็นหลักสูตรที่รวมประสบการณ์การเรียนรู้ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ประสบการณ์ดังกล่าวเป็นประสบการณ์ที่คัดเลือกมาจากหลายสาขาวิชา แล้วจัดเป็นกลุ่มหรือหมวดหมู่ของประสบการณ์ เป็นการบูรณาการเนื้อหาเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์สัมพันธ์และต่อเนื่องอันมีคุณค่าต่อการดำรงชีวิต
หลักสูตรบูรณาการเป็นหลักสูตรที่รวมประสบการณ์การเรียนรู้ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ประสบการณ์ดังกล่าวเป็นประสบการณ์ที่คัดเลือกมาจากหลายสาขาวิชา แล้วจัดเป็นกลุ่มหรือหมวดหมู่ของประสบการณ์ เป็นการบูรณาการเนื้อหาเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์สัมพันธ์และต่อเนื่องอันมีคุณค่าต่อการดำรงชีวิต
หลักสูตรของไทยมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มีการประกาศใช้แผนการศึกษาแห่งชาติ เมื่อปีพ.ศ. 2503
เพื่อให้การศึกษาพัฒนาสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยเน้นที่
จริยศึกษา พลศึกษา พุทธิศึกษา และ หัตถศึกษา และเริ่มมีหลักสูตรประถมศึกษาเมื่อปี
พ.ศ. 2521 ต่อมามีการปฏิรูปการศึกษาครั้งสำคัญในปี พ.ศ. 2542
โดยมุ่งเน้นให้จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งทางร่างกาย
จิตใจ ความรู้ และคุณธรรม สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีพระราชบัญญัติการศึกษา
พ.ศ. 2542 และต่อมีการแก้ไขเป็น พระราชบัญญัติการศึกษา พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม
(ครั้งที่ 2) พ.ศ. 2545 จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542ได้กำหนดให้มีการจัดทำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
และได้ประกาศให้ใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 โดยการจัดการศึกษามุ่งเน้นความสำคัญทั้งด้านความรู้
ความคิด ความสามารถ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และความรับผิดชอบต่อสังคม
เพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดหลักผู้เรียนสำคัญที่สุด
ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้
ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
ให้ความสำคัญต่อความรู้เกี่ยวกับตนเอง และความสัมพันธ์ของตนเองกับสังคม โดยแบ่งเป็น
4 ช่วงชั้น มี 8 กลุ่มสาระ คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ
และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ต่อมาในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 10 เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาคนในสังคมไทย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาเยาวชนสู่ศตวรรษที่
21
จึงเกิดการทบทวนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 และนำไปสู่การประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ซึ่งแบ่งเป็น 3 ช่วงชั้น มีการกำหนดตัวชี้วัดชั้นปี สำหรับการศึกษาภาคบังคับ
(ป.1- ม.3) และตัวชี้วัดช่วงชั้นสำหรับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4-6 ) และกำหนดกิจกรรมผู้เรียน
เป็น 3 ลักษณะดังนี้ 1. กิจกรรมแนะแนว 2. กิจกรรมนักเรียน 3. กิจกรรมเพื่อนสังคมและสาธารณประโยชน์ อย่างไรก็ตาม
หลักสูตรจำเป็นต้องมีการพัฒนาและตรวจสอบอยู่เสมอ เพื่อให้ได้หลักสูตรที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับสังคมแต่ละยุคสมัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น