โบแชมพ์ (Beauchamp 1981: 11)ได้กล่าวว่า
ทฤษฏีจะช่วย บอกให้ทราบปรากฏการณ์ต่างๆ,อธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่างๆ
และทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ โบแชมพ์ได้จัดกลุ่มความรู้เป็น 3 กลุ่มหลัก คือ
1.วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (The natural sciences) 2.สังคมศาสตร์ (The
social sciences) 3.มนุษยศาสตร์ (The humanities) ซึ่งทฤษฎีหลักสูตรเป็นสาขาย่อยของวิชาศึกษาศาสตร์
แบ่งออกเป็น
1.
ทฤษฎีการออกแบบหลักสูตร (Curriculum
Design) เกี่ยวข้องกับการจัดระบบระเบียบที่เป็นพื้นฐานของการวางแผนหลักสูตร
2.
ทฤษฏีวิศวกรรมหลักสูตร (Curriculum
Engineering) เกี่ยวข้องกันกิจกรรมในการพัฒนาหลักสูตร
ออร์นสไตน์ และฮันกิน (Ornstien A.C.
& Hunkins F.P., 2004) ได้กล่าวว่า ทฤษฏีหลักสูตร หมายถึง
ข้อความที่อธิบายความหมายของหลักสูตร
โดยแสดงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆของหลักสูตร และเป็นแนวทางในการศึกษา
การนำหลักสูตรไปใช้ และการประเมินผลหลักสูตร และ เฮิบเนอร์ (Dwayne
Huebner, 1968) ได้สรุปว่า
ทฤษฏีหลักสูตรทำหน้าที่ 6 ประการ คือ 1. การบรรยาย(Descriptive)
2.การอธิบาย
(Explanatory) 3.การควบคุม (Controlling) 4.มีสิทธิตามกฎหมาย (Legitimizing) 5.แนะนำ/กำหนดให้
(Prescriptive) 6.การเข้าเป็นสมาชิก (Affiliative)
แมคไซส์ (Maccias, 1963)ได้บางทฤษฏีหลักสูตรออกเป็น
4 กลุ่ม ดังนี้
1.
ทฤษฏีหลักสูตรแบบทางการ (Formal Theory) กล่าวถึงหลักการและกฎเกณฑ์
และโครงสร้างหลักสูตรโดยทั่วไป
2.
ทฤษฎีสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลักสูตร (Event
theory) เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้นในหลักสูตร
3.
ทฤษฏีการประเมินค่าหลักสูตร (Valuation
theory) อธิบายความเหมาะสมของหลักสูตร
4.
ทฤษฎีการกระทำของมนุษย์ (Praxiological
Theory) ศึกษาพฤติกรรมมนุษย์และพฤติกรรมที่ตามมา
การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง
กระบวนการสร้างและทดสอบคุณภาพของหลักสูตรที่นำวิธีการเชิงระบบมาประยุกต์ใช้โดยนำกระบวนการวิจัยและพัฒนามาใช้ในการสร้างและทดสอบคุณภาพหลักสูตร
แนวคิดที่นำมาใช้มนการพัฒนาหลักสูตร คือ แนวคิดการจัดการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific
management) ซึ่งเป็นแนวคิดของกลุ่มผลผลิต (Product approach) หลักสูตรในรูปแบบนี้มีฐานคิดสำคัญของแบบจำลองการขับเคลื่อนผลการเรียนรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น