การสร้างหลักสูตรสถานศึกษา
หลักสูตรสถานศึกษาจะต้องสนองตอบการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
สังคม การเมืองและสิ่งแวดล้อมการศึกษาจะเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ถ้ามีการปรับปรุงหลักสูตรตลอดเวลา
สถานศึกษาจึงควรดำเนินการในการจัดทำหลักสูตร ดังนี้
1.
กำหนดวิสัยทัศน์
สถานศึกษาจำเป็นต้องกำหนดวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องโลกและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
สถานศึกษาจะต้องมีการปรับตัว ปรับหลักสูตรเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสมกับยุคสมัย การกำหนดวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความร่วมมือของชุมชน ผู้ปกครอง
ครูผู้สอน ผู้เรียน ภาครัฐและเอกชนในการแสดงความคิดเห็น สถานศึกษาพัฒนาผู้เรียนที่มีพันธกิจ
ร่วมกันกำหนดงานหลักที่สำคัญของสถานศึกษา พร้อมด้วยเป้าหมาย มาตรฐาน
แผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการและการติดตามผล ตลอดจนจัดทำรายงานแจ้งสาธารณชน
และส่ง ผลย้อนกลับ ให้สถานศึกษาเพื่อปฏิบัติงานที่เหมาะสมและได้มาตรฐานสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของชาติ
2. การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
จากวิสัยทัศน์
เป้าหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้ที่สถานศึกษาได้กำหนดไว้
สถานศึกษาจะต้องจัดทำสาระการเรียนรู้ จากช่วงชั้นให้เป็นรายปีหรือรายภาค
พร้อมกำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังไว้ให้ชัดเจน เพื่อให้ครูนำไปออกแบบการเรียนการสอน
หลักสูตรดังกล่าวจะเป็นหลักสูตรสถานศึกษาที่ครอบคลุมภาระงานการจัดการศึกษาทุกด้านของสถานศึกษา
3. การกำหนดสาระการเรียนรู้
และผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค
สถานศึกษาวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นของกลุ่มสาระต่าง
ๆ จากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกำหนดสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้เป็นรายปีหรือรายภาคให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาด้วย
พิจารณาวิธีการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล และการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น และสามารถกำหนดในลักษณะผสมผสานบูรณาการได้
4. การออกแบบการเรียนการสอน
ครูผู้สอนทุกคนเป็นผู้ออกแบบการเรียนการสอน
โดยคาดหวังว่าผู้เรียนสามารถทำอะไรได้ในแต่ละช่วงชั้น การออกแบบการเรียนรู้จะต้องให้ผู้เรียนพัฒนาได้ทั้งด้านความรู้
ความคิด ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์และสังคม
แนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ทฤษฏี Constructivist
เชื่อว่าการเรียนรู้เป็นผลของการผลิตหรือสร้างสรรค์ทางปัญญา
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการสร้างความต่อเนื่องระหว่างข้อมูลสารสนเทศใหม่กับความรู้เดิม
เน้นความสำคัญของผู้เรียนในฐานะผู้ที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุหรือปรากฏการณ์
เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อสิ่งเหล่านั้น
ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความคิดรอบยอดและแนวทางแก้ปัญหาชองตนเอง
กลุ่มทฤษฏีนี้จึงเห็นคุณค่าของความคิดริเริ่มและความเป็นอิสระทางความคิดของผู้เรียน
ข้อตกลงเกี่ยวกับการเรียนรู้ตามแนวคิด Constructivist มีดังนี้
1)
ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้
เมื่อทำกิจกรรมการเรียนรู้
2)
ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้เกี่ยวกับสัญลักษณ์
หรือสร้างความหมาย เมื่อผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม
3)
ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้เกี่ยวกับสังคม
เมื่อต้องการนำความหมายที่ตนเองสร้างไปมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
แกนอนและคอลเลย์
(Gagnon & Collay, 2001: 2) เสนอว่าการออกแบบการเรียนรู้ตามทฤษฏีConstructivist
ประกอบด้วย
6 ส่วนสำคัญ คือ สถานการณ์ (Situation), การจัดกลุ่ม (Grouping),
การเชื่อมโยง
(Bridge), การซักถาม (Questions), กาจรัดแสดงผลงาน (Exhibit) และการสะท้อนความรู้สึกในการปฏิบัติงาน
(Reflection) เมื่อกล่าวโดยสรุป คุณลักษณะของทฤษฎี Constructivist มีดังนี้
1)
ผู้เรียนสร้างความรู้
ความเข้าใจในสิ่งที่เรียนรู้ด้วยตนเอง
2)
การเรียนรู้สิ่งใหม่ขึ้นกับความรู้เดิมและความเข้าใจที่มีอยู่ปัจจุบัน
3)
การมีปฏิสัมพันธ์ต่อสังคมมีความสำคัญต่อการเรียนรู้
4)
การจัดสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมที่คล้ายคลึงกับชีวิตจริงทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
5. การกำหนดเวลาเรียนและจำนวนหน่วยกิต
การจัดการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี สถานศึกษาต้องตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
โดยเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะในด้านการอ่าน การเขียน การคิดเลข
การคิดวิเคราะห์ และการใช้คอมพิวเตอร์ บูรณาการการเรียนรู้ด้วยกลุ่มสาระต่างๆ
เข้ากับหัวข้อเรื่องที่เรียนอย่างสมดุล
ควรกำหนดจำนวนเวลาเรียนสำหรับสาระการเรียนรู้รายปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น